เมื่อ AI กลายเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่พาผู้สูงอายุกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน
- JumpThailand

- Aug 14
- 1 min read
Updated: Aug 15
ในยุคที่เราพูดถึงนวัตกรรมและความเปลี่ยนแปลงดิจิทัลทุกวัน คำว่า “เทคโนโลยี” มักถูกจับคู่กับ “คนรุ่นใหม่” เสมอ แต่เราลืมใครบางคนไปหรือเปล่า?

ในโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน ผู้สูงอายุจำนวนมากกำลังถูกผลักไปอยู่ข้าง ๆ ทั้งที่พวกเขา “ยังมีพลัง มีภูมิปัญญา และความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคม”

สังคมสูงวัย: เรากำลังก้าวเร็วเกินกว่าที่ใครบางคนจะก้าวตามทัน
ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” ตั้งแต่ปี 2564 โดยมีประชากรอายุ 60+ มากกว่า 20% ขณะเดียวกัน โลกของเทคโนโลยีก็เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ตลาดแรงงานก็กำลังเปลี่ยนเป็นดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งไม่เอื้อต่อการกลับมาทำงานของผู้สูงวัย ซึ่งผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยยังต้องการทำงาน ไม่ใช่เพียงเพื่อรายได้ แต่เพื่อคุณค่า เพื่อความรู้สึกว่า "ฉันยังมีความหมายในโลกใบนี้"
แต่สิ่งที่พวกเขาพบกลับเป็น:
ระบบการสมัครงานที่เข้าใจยาก และสับสน
การทำงานที่ต้องใช้เทคโนโลยีโดยไม่มีใครสอน
ความเชื่อของสังคมที่จำกัดบทบาทของพวกเขาให้เป็นเพียง “กิจกรรมหลังเกษียณ”
สิ่งเหล่านี้...ผลักคนที่เคยเป็นกำลังหลักของเศรษฐกิจให้กลายเป็น “คนที่ไม่มีที่ไป” ทั้งที่พวกเขายังอยากเดินต่อไป

โอกาสที่ซ่อนอยู่ตรงหน้า
เราอาจเข้าใจผิดมาตลอดว่า “ผู้สูงอายุตามเทคโนโลยีไม่ทัน” ทั้งที่ความจริงแล้ว ปัญหาอาจไม่ใช่เพราะ “เขาช้า” แต่เป็นเพราะ “เรายังไม่เคยออกแบบสิ่งแวดล้อมการทำงานที่ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ” มากกว่า
ลองจินตนาการดูว่า ถ้าสถานที่ทำงานในวันนี้...
ปรับตัวเข้ากับจังหวะชีวิตที่แตกต่าง แทนที่จะบังคับให้ทุกคนทำงานแบบเดียวกัน
ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและเข้าใจง่าย แทนที่จะเต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะและระบบซับซ้อน
มีการสอนงานและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะคาดหวังให้เรียนรู้ทุกอย่างได้ทันที
ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่หลากหลาย แทนที่จะมุ่งเน้นแค่ผลผลิตแบบเดิม ๆ
เราไม่เพียงแค่ได้แรงงานที่เต็มใจทำงาน แต่เราจะได้พนักงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ความอดทนและภูมิปัญญาที่ Google หรือแม้แต่ AI ใด ๆ ก็ไม่สามารถให้ได้

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญกับทุกคน เพราะการกลับมาทำงานของผู้สูงวัย คือ กำไรของสังคม
การเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของ “ความเท่าเทียม” แต่คือ “การลงทุนทางสังคมที่ชาญฉลาด” ที่ให้ผลตอบแทนมากมายในระยะยาว
สำหรับองค์กร:
เป็นการเข้าถึงประสบการณ์และความรู้ที่สั่งสมมาหลายสิบปี
ได้รับมุมมองที่หลากหลายนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ดีกว่า
มีนวัตกรรมเพิ่มขึ้นผ่านวิธีคิดที่แตกต่าง
ได้รับชื่อเสียงและผลกระทบทางสังคมที่ดีขึ้น
สำหรับคนรุ่นใหม่:
ได้โอกาสเรียนรู้ที่ไม่มีในตำราเรียน
ได้การแนะนำจากคนที่ผ่านวงจรเศรษฐกิจหลายรอบ
ได้สร้างความเข้าอกเข้าใจและทักษะการสื่อสารข้ามรุ่น
สำหรับสังคม:
ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพผ่านการมีสุขภาพจิตและกายที่ดีขึ้น
ลดอัตราการพึ่งพิง
ชุมชนมีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้น
การเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
สำหรับผู้สูงอายุ:
รักษาคุณค่าในตนเอง
มีความเป็นอิสระและความมั่นคงทางการเงิน
ได้เชื่อมโยงทางสังคมและการมีส่วนร่วมในชุมชน
ได้เติบโตและเรียนรู้ส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเราสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ผลักใครออกไป เรากำลังสร้าง “แรงงานหลายรุ่น” ที่ร่วมขับเคลื่อนสังคมไปด้วยกันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

เราเชื่อว่า อนาคตของการทำงาน ไม่ได้วัดจากตัวเลขของอายุ
แต่ขึ้นอยู่กับว่า…คุณสามารถช่วยลดช่องว่างในการเรียนรู้เทคโนโลยีให้พวกเขาได้หรือไม่
และถ้าคำตอบคือ “ใช่” ก็ไม่ควรมีอะไร…มาขวางไม่ให้คุณเริ่มต้นใหม่
เพียงแค่มีระบบที่เข้าใจเพียงแค่มีสังคมที่เชื่อมั่นในคุณค่าของผู้สูงวัยเพียงแค่เทคโนโลยีไม่ลืม “หัวใจ” ในการออกแบบ
ผู้สูงอายุของเราก็พร้อมกลับมาทำงานอย่างมีความหมาย และเติมเต็มอนาคตของการทำงานให้ทุกเจเนอเรชันไปพร้อมกัน
แล้วเราพร้อมที่จะสร้างสะพาน แทนที่จะสร้างกำแพงหรือยัง?
Written by : Pawarisa Jenpoomdech
ที่มา:






