top of page
Asset_.jpg

AI ที่ช่วยเปิดโอกาสให้ “คนพิการ” ทำงานได้จริง ไม่ใช่แค่ในฝัน

  • Writer: JumpThailand
    JumpThailand
  • Aug 14
  • 1 min read

Updated: Aug 15


ree

จากปัญหาสู่โอกาส: ความท้าทายที่รอการแก้ไข

“คนพิการก็ทำงานได้ เมื่อโลกใบใหม่เปิดกว้างกว่าเดิมอย่าดูถูกศักยภาพของเรา เพียงเพราะคุณ

ไม่เข้าใจข้อจำกัดของเรา”


นี่คือเสียงจากคนพิการที่มักถูกสังคมมองข้าม ทั้งที่พวกเขามีศักยภาพไม่ต่างจากคนทั่วไป และในยุค

ที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คำว่า “คนทำงานได้” ไม่ควรถูกจำกัดด้วยร่างกายที่สมบูรณ์ แต่ควรนิยามใหม่ด้วยคำว่า “ความสามารถ” และ “ความตั้งใจ” มากกว่า


ree

ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนคำถามจาก “เราช่วยอะไรได้บ้าง” เป็น “เขาทำอะไรได้บ้าง”

ที่ผ่านมา คนพิการจำนวนมากมักถูกมองในบทบาทของ ‘ผู้รับ’ ไม่ว่าจะเป็นการรับความช่วยเหลือ

การรับเงินสนับสนุน หรือการถูกมองด้วยสายตาสงสาร แต่วันนี้ เราต้องกล้าตั้งคำถามกลับ

  • ทำไมถึงไม่เชื่อว่าเขาสามารถทำงานอย่างมืออาชีพได้?

  • ทำไมเขาถึงไม่มีที่ยืนในตลาดแรงงาน?

  • เราให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเองมากพอแล้วหรือยัง?

เพราะสิ่งที่คนพิการต้องการมากที่สุด ไม่ใช่ “ความสงสาร” แต่คือ “โอกาสที่เท่าเทียม”


ree

พื้นที่การทำงานที่ไม่เอื้ออำนวย ตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวเข้าไป

หลายคนอาจไม่เคยรู้สึก…แต่สำหรับคนพิการแล้วนี่คือความจริงที่ต้องเจอทุกครั้งที่พยายามหางานทำพวกเขาเล่าถึงปัญหาที่พบคล้ายๆ กันว่า…

“ผมเก่งด้านกราฟิก แต่คนไม่กล้าจ้าง เพราะคิดว่าผมนั่งรถเข็นแล้วจะทำงานไม่ได้”“ไม่มีใครสอนการใช้งานระบบการสมัครงานออนไลน์แบบง่าย ๆ สำหรับคนหูหนวกเลย”“ผมไม่มีโอกาสในการฝึกงานเลย เพราะไม่เคยมีบริษัทไหนเปิดรับคนตาบอดฝึกงาน”

   นี่ไม่ใช่ เพราะพวกเขาไม่มีความสามารถ แต่เพราะ “กรอบ” ที่สร้างขึ้นมาส่วนใหญ่ถูกสร้างมาเพื่อคนที่ไม่มีข้อจำกัดทางร่างกายหรือการรับรู้ ทำให้แม้แต่ขั้นตอนพื้นฐานอย่างการสมัครงาน การฝึกงาน หรือการเข้าถึงอุปกรณ์ทำงาน ก็กลายเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ของคนพิการ

   สิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่สิ่งพิเศษเหนือใคร แต่เป็นพื้นที่การทำงานที่เข้าใจและเคารพความแตกต่างของมนุษย์ พื้นที่ที่พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ใช้ความสามารถที่มี โดยไม่ถูกจำกัดด้วยสภาพร่างกายหรือวิธีการสื่อสาร เพราะ “โอกาส” ไม่ควรเลือกคน แต่ควรเปิดให้ทุกคนที่มีความฝันและความสามารถได้ลงมือทำจริง


ree

คนพิการไม่ต้องการ “ข้อยกเว้น” แต่ต้องการ “โอกาสเหมือนทุกคน”

  • ไม่มีแขน แต่ควบคุมเมาส์ด้วยดวงตาได้อย่างแม่นยำ

  • ตาบอด แต่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ดีกว่าคนทั่วไป

  • พูดไม่ได้ แต่สื่อสารกับทีมได้ครบถ้วนผ่านแพลตฟอร์มที่พวกเขาสร้างเอง

      นี่ไม่ใช่เรื่องของอนาคต แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์กำลังทำให้สิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นข้อจำกัด กลายเป็นศักยภาพที่แตกต่าง สิ่งที่เราต้องทำ…ไม่ใช่ยกเว้นกฎ แต่ เปิดพื้นที่ใหม่ให้โอกาสเติบโต เพื่อให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพเต็มที่


ree

การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เริ่มจากเทคโนโลยี แต่มาจาก “วิธีที่เรามองกันและกัน”

สังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องเหมือนกันแต่มันคือสังคมที่ออกแบบให้เกิดความหลากหลายในการทำงานร่วมกันได้จริง

ลองจินตนาการ…


  • เจ้าหน้าที่ Customer Support ที่ตาบอด สามารถดูแลการสื่อสารผ่านแชทได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเขาเข้าใจ “น้ำเสียงของข้อความที่ส่งมา” ได้ดีกว่าที่เราคิด

  • Project Manager ที่ใช้วีลแชร์ มีความสามารถที่แม่นยำในการบริหารจัดการกระบวนการ

    ทำให้ทีมเดินหน้าอย่างเป็นระบบ


สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความสงสารหรือข้อยกเว้น แต่มาจากการเปิดโอกาสให้พวกเขาพิสูจน์คุณค่าในแบบของตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้ว การเปลี่ยนแปลงทางสังคมไม่ได้เริ่มจากเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่มันเริ่มจากมุมมองที่เราเลือกจะมองกันในฐานะ “มนุษย์” และจากการลงมือออกแบบที่ให้ทุกคนได้ยืนอยู่บนพื้นที่ของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ


ree

เราไม่ต้องการ "สิ่งพิเศษ" เราต้องการ "สังคมที่ไม่มองข้ามเรา"

ถึงเวลาแล้วที่เราจะเลิกถามว่า “จะจ้างคนพิการทำอะไรดี?”และเริ่มถามว่า “เขาอยากทำอะไร และเราจะสนับสนุนเขาได้อย่างไร?”

โอกาสทางอาชีพของคนพิการจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อเราเชื่อว่าเขามีคุณค่าเท่าเทียมกันตั้งแต่แรก

อย่ารอให้ใครมาเปิดประตูให้พวกเขา แต่จงสร้างโอกาสที่ทุกคนสามารถเปิดประตูให้ตัวเองได้

เพราะการมี “งาน” ไม่ใช่แค่รายได้ แต่มันคือศักดิ์ศรี ความภูมิใจ และความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม

 Written by : Pawarisa Jenpoomdech


ที่มา:

 
 
bottom of page